เสริมคาง มีกี่ทรง? อยากทำคางต้องดูไว้ ทรงไหนเหมาะกับเรา

เสริมคาง มีกี่ทรง? เป็นคำถามที่หาคำตอบกันอย่างแก้ไม่ตกสำหรับผู้ที่อยากทำศัลยกรรมคาง ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่รู้ว่าตนเองเหมาะกับการทำคางทรงไหน เพื่อที่จะช่วยปรับรูปหน้าแนวโหนกแก้มให้ได้สัดส่วนมากขึ้น อย่างที่ทราบกันดีครับว่า การทำคางนั้นมีหลายวิธี และสามารถทำออกมาได้หลายทรงซึ่งจะขึ้นอยู่กับการปรึกษา การพิจารณา และการตัดสินใจระหว่างหมอและคนไข้ร่วมกัน ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยกันเรื่องวิธีการทำคางมีกี่วิธี และแต่ละแบบเหมาะกับใครบ้างครับ

เสริมคาง มีกี่ทรง และมีวิธีทำคางแบบใดบ้าง?

หลาย ๆ คนที่มีความไม่มั่นใจกับใบหน้า อาจจะเนื่องด้วยปัญหาองค์ประกอบใบหน้าที่ไม่สมสัดส่วนกัน ไม่มีความสมดุล จึงทำให้เกิดความกังวลและไม่มั่นใจแม้กระทั่งการทำกิจวัตรประวัน โดยการเสริมคางถือเป็นศัลยกรรมส่วนที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบันเพราะสามารถ แก้ไขปัญหาคางได้อย่างตรงจุด

การทำศัลยกรรมเสริมคาง มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่

โปรแกรมฟิลเลอร์ หรือไขมันของตัวเอง

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ  Hyaluronic Acid (HA) มีความคงตัวสูงเเละจะมีอายุอยู่ประมาณ 1-2 ปี ส่วนไขมันของตัวเอง อายุ 1 ปี จะสลายประมาณ 20% เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไม่มากสามารถทำได้สะดวก รวดเร็ว เเละฟื้นตัวได้ไว

การเสริมคางด้วยซิลิโคน

จุดเด่นของซิลิโคนคือ ทำเป็นรูปทรงได้ง่าย และถ้าหากมีการอักเสบ ผิดรูป หรือไม่ชอบทรงก็สามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งการเสริมซิลิโคน เป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการเสริมจมูก มาเหลาปรับทรงตามความเหมาะสม

การเสริมคางโดยใช้ซิลิโคน

การใส่ซิลิโคนเสริมคางมีทั้งสิ้น 3 แบบ คือ

เสริมซิลิโคนลงข้างล่าง

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีคางสั้น ซึ่งการวัดต้องได้สัดส่วนจากหน้าผาก-จมูก-คาง

เสริมซิลิโคนออกมาด้านหน้า

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่คางหลบ เวลามองด้านข้างคางจะหลบไปด้านหลัง ก็จะเสริมเพื่อให้ดูยื่นออกมาด้านหน้า

เสริมซิลิโคนออกมาตรงกลางระหว่างบนและล่าง

วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่คางสั้น และหลบวิธีนี้ต้องเสริมออกมาตรงกลาง สำหรับผู้ที่ต้องแก้ปัญหาคางมาก อาจจะต้องตัดกระดูก เลื่อนกระดูกกราม และการเลื่อนกระดูกต้องทำร่วมกับการจัดฟันด้วย

การเสริมคางด้วย โปรแกรมฟิลเลอร์

ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น ฟิลเลอร์ชนิดที่ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ดูนุ่มนวลขึ้นได้ หรือชนิดที่มีความคงตัว ที่สามารถใช้ปรับโครงหน้าได้ เป็นต้นครับ

ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด

เป็นฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อเหลว มีความคงรูปต่ำ เบาบางเหมือนน้ำ เหมาะกับการฉีดผิวชั้นตื้น ผิวที่มีความบาง  เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์หลังมือ เป็นต้น เพื่อเติมเต็มให้ผิวดูมีความอิ่มน้ำ ดูเรียบเนียน

ฟิลเลอร์เนื้อความแข็งปานกลาง

เป็นฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อเจล มีความคงตัวกว่าฟิลเลอร์ชนิดเนื้อนิ่ม แต่ยังมีความนุ่ม ยืดหยุ่น ไม่เป็นก้อน เหมาะกับการฉีดผิวชั้นไขมันและคนที่มีผิวบางแต่อยากเติมเต็มรูปหน้าให้ดูมีความนุ่มนวลมากขึ้น บริเวณที่ฉีด เช่น โปรแกรมฟิลเลอร์ปาก ขมับ หน้าผาก ร่องน้ำหมาก เป็นต้น

ฟิลเลอร์เนื้อความแข็งสูง

เป็นฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อแข็งมีความคงตัว ขึ้นทรงเป็นรูปได้ดี ทำให้สามารถยกผิวได้ดี เหมาะกับการฉีดเพื่อทดแทนโครงสร้าง ปรับรูปหน้าแนวโหนกแก้ม รูปคาง ดูมีมิติเห็นได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหนา หรือคนอายุเยอะที่มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

อย่างไรก็ดีครับ ในขั้นตอนการศัลยกรรม ถือเป็นขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ดังนั้น คนไข้ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์อย่างใกล้ชิดและข้อมูลครบถ้วนเพื่อทราบถึงรายละเอียดทั้งสองฝ่าย