โปรแกรมผ่าตัดดึงหน้า Facelift ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ บอกลาหน้าหย่อนคล้อย 

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า (Facelift) หัตถการความงามที่จะช่วยยกกระชับผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าส่วนบน ส่วนกลาง ส่วนล่าง และการยกกระชับผิวส่วนลําคอ ให้ผิวหน้ากลับมาดูเรียบเนียน เต่งตึงปรับให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก กรอบหน้าคมชัดได้สัดส่วนยิ่งกว่าเก่า บอกลาปัญหาริ้วรอยร่องลึก ผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา 

คุณกู้  วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง (อายุ 58 ปี ) อดีตนางงาม และนักแสดง หลังทำโปรแกรมดึงหน้า ครบ 3 เดือน ที่ YKJ Medical Clinic 

คุณลูกนก สุภาพร (อายุ 51 ปี ) นักร้องเพลงลูกทุ่งหญิงชื่อดัง เจ้าของเพลง “คุณลำใย” ตัดสินใจทำศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิต หลังทำโปรแกรมดึงหน้าครบ 1 เดือน ที่ YKJ Medical Clinic 

คุณหน่อย สุรัตนา คล่องประเสริฐ  หลังทำโปรแกรมดึงหน้า ที่ YKJ Medical Clinic

คุณปูเป้ (อายุ 55 ปี) หญิงไทยจากนอร์เวย์ตัดสินใจบินตรงกลับมาประเทศไทยเพื่อทำโปรแกรมดึงหน้าและแก้จมูกโอเพ่นซี่โครงกับคุณหมอกันและคุณหมอเอกที่ YKJ Medical Clinic หลังจากครบ 1 เดือน คนไข้รู้สึกแฮปปี้กับผลลัพธ์จนอดชมคุณหมอไม่ได้
“คุณหมอทำดีมาก ทำสวยมาก เรื่องแผลดึงหน้าคือแทบมองไม่เห็นเลย หน้าดูเด็ก ดูเปลี่ยนมากจนจำตัวเองแทบไม่ได้ ไม่คิดว่าจะเด็กลงขนาดนี้ เรียกได้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมา กับราคาที่จ่ายไป คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ไม่แพงเลย ตื่นมาก็สวย มั่นใจมากขึ้น ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเยอะมากๆ”

Mr.Angelo (อายุ 58 ปี) เคยผ่านการดึงหน้ามาแล้วที่อเมริกา แต่ยังประสบปัญหาหย่อนคล้อย ครั้งนี้จึงมาแก้ด้วยโปรแกรมดึงหน้ากับคุณหมอเอก เทคนิค Deep Plane Facelift  คุณ Angelo พึงพอใจกับผลลัพธ์มาก หลังผ่านไป 5 เดือน ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ผิวหน้ากระชับ เต่งตึง

คุณจุ๊บ (อายุ 49) ภรรยาชาวไทยของคุณแองเจโร่ หลังจากประทับใจผลลัพธ์ของสามีจากการทำโปรแกรมดึงหน้าเทคนิค Deep Plane Facelift ที่ YKJ Medical Clinic 

คุณกระต่าย (อายุ 60 ปี) อยากให้ตัวเองกลับมาดูอ่อนเยาว์เหมือนสาววัยรุ่น จึงได้เข้ามาปรึกษากับทางคลินิก คุณกระต่ายมาด้วยปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยตามช่วงอายุ คิ้วตก ร่องน้ำหมากลึก มีเหนียงหรือคางหลายชั้น และบริเวณช่วงลำคอขาดความกระชับ สาเหตุมาจากอายุที่มากขึ้น หลังจากผ่านไป 6 เดือน คนใข้ประทับใจกับใบหน้าที่เปลี่ยนไปของตัวเอง ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ผิวที่เหี่ยวหย่นมีความกระชับ เต่งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงชั้นคางและส่วนที่หย่อนคล้อยของแก้มก็หายไป

คุณน้อง (อายุ 66 ปี ) หลังผ่าตัดด้วยโปรแกรมดึงหน้าเทคนิค Deep Plane Facelift กับคุณหมอกันและคุณหมอเอก หลังทำ ใบหน้ากระชับ เต่งตึงขึ้น ผิวอ่อนเยาว์ลง

ข้อดีของโปรแกรมดึงหน้า Deep Plane Facelift

  • เป็นศัลยกรรมดึงหน้าแบบชั้นลึก แก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยได้มากกว่าเทคนิคทั่วไป ทั้งเหนียง รอยย่น และการสูญเสียความอิ่มเอิบของแก้ม
  • สามารถยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ และคงอยู่ได้ยาวนานกว่าการดึงหน้าแบบดั้งเดิม 
  • เป็นเทคนิคมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก 

คุณน้อย (อายุ 59 ปี) ผ่าตัดด้วยโปรแกรมดึงหน้า  กับคุณหมอเอก รอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยแห่งวัยลดลง หน้าดูเต่งตึง กระชับขึ้น

แผลผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า เทคนิคการเย็บแผล Scarless Facelift 

วีดีโอรีวิวโปรแกรมดึงหน้า ที่ YKJ Medical

สำหรับ คุณหมอเอก (นพ. พงษ์วัฒน์ พลพงษ์) เป็น แพทย์ด้านศัลยกรรมระบบประสาท (Neurological Surgery) คุณหมอมีความรู้ด้านสมองและกายวิภาคศาสตร์ของโครงสร้างใบหน้าเป็นอย่างดี จึงทำให้คุณหมอสามารถวางแผนการผ่าตัดได้อย่างละเอียด ซึ่งความรู้นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการผ่าตัดดึงหน้าเทคนิค Deep Plane Facelift 

เพราะ Deep Plane Facelift  เป็นการดึงหน้าชั้นลึกกว่า SMAS ซึ่งต้องอาศัยทักษะในการหลีกเลี่ยงเส้นเลือดต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดอันตราย หากแพทย์ไม่เข้าใจ Anatomy ของใบหน้าอย่างลึกซึ้ง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น เลือดออก บวมช้ำ เส้นประสาทเสียหาย ส่งผลกระทบต่อใบหน้าและการทำงานของใบหน้า

 

โปรแกรมดึงหน้า Facelift สามารถทำพร้อมกับโปรแกรมเสริมจมูก หรือโปรแกรมตาสองชั้นได้หรือไม่?

  • การทำโปรแกรมดึงหน้า เป็นการผ่าตัดเพื่อยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก แก้มตกลง คางย้อย
  • การทำโปรแกรมเสริมจมูก เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับรูปทรงจมูก หรือแก้ไขปัญหาจมูก
  • การทำโปรแกรมตาสองชั้น เป็นการผ่าตัดเพื่อสร้างชั้นตา หรือแก้ไขปัญหาชั้นตา เช่น ปัญหาตาชั้นเดียว ตาตี่ หนังตาตก

การผ่าตัดทั้งสามอย่างสามารถทำพร้อมกันได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและความเหมาะสมของผู้เข้ารับการผ่าตัด โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์

อ่านเพิ่มเติม : โปรแกรมตาสองชั้นที่ YKJ Medical Clinic

อ่านเพิ่มเติม : โปรแกรมแก้จมูก เสริมจมูกโอเพ่นที่ YKJ Medical Clinic

แพทย์ ผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า

สนใจโปรโมชั่น คลิกจองคิวหรือปรึกษา

โทรปรึกษา

สารบัญการโปรแกรมดึงหน้า (Facelift)

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า (Facelift) คืออะไร?

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า (Facelift) คือ การผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อยกกระชับและตกแต่งกล้ามเนื้อบนผิวหน้าให้กลับมาอยู่ในตําแหน่งที่เหมาะสม ปรับผิวให้ดูเต่งตึง ขจัดปัญหาความหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยวย่น รวมถึงปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนผิวหน้า ปรับกรอบหน้าให้คมชัด ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ผลลัพธ์หลังการรักษาคงอยู่ได้ยาวนาน

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังจะเริ่มสูญเสียความกระชับ เนื่องจากคอลลาเจน อิลาสติน และเนื้อเยื่อเส้นใยเริ่มสลายตัว ซึ่งในบรรดาหัตถการยกกระชับผิวทั้งหมด อาจกล่าวได้ว่า การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า (Facelift) เป็นหัตถการยกกระชับผิวที่ให้ผลลัพธ์ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ และอยู่ได้ยาวนาน

⇧ กลับสู่สารบัญ

ใครบ้างที่ควรผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า?

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า เป็นหัตถการยกกระชับผิวที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวหน้าดูเหี่ยวย่น และผู้ที่มีปัญหาผิวเหล่านี้

  1. ผู้ที่มีปัญหารอยเหี่ยวย่นหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว มีร่องลึกหน้าผาก ที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
  2. ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก คิ้วตก หางตาตก หรือมีปัญหากล้ามเนื้อตาหย่อน โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ocular Myasthenia Gravis) จนส่งกระทบต่อการมองเห็น ทําให้ใช้ชีวิตประจําวันได้ลําบาก
  3. ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา และรอยตีนกา
  4. ผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย แก้มห้อย จนทําให้ใบหน้าทั้ง 2 ข้างดูไม่สมมาตร
  5. ผู้ที่มีคาง 2 ชั้น มีเหนียงเยอะ ทําให้กรอบหน้าไม่คมชัด หน้าดูกลม หน้าบาน
  6. ผู้ที่มีผิวบริเวณลําคอเหี่ยวย่น มีรอยพับ
  7. ผู้ที่เคยยกกระชับผิวหน้าด้วยหัตถการอื่นๆ มาก่อนแล้ว เช่น การร้อยไหม ฉีดโบท็อกซ์ การเลเซอร์ Hifu, Thermage, Ulthera แต่ไม่เห็นผล หรือไม่ตอบโจทย์ความต้องการ

⇧ กลับสู่สารบัญ

เทคนิคโปรแกรมดึงหน้า ที่ YKJ Medical Clinic

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า ที่ YKJ Medical Clinic หลักๆ มี 3 รูปแบบ คือ

  1. SMAS Facelift เป็นเทคนิคดึงหน้าแบบเปิดแผลยาวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เทคนิคนี้เป็นการยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อที่ยึดเกาะผิวหนังและกระดูกบริเวณใบหน้า ซึ่งเทคนิคนี้สามารถยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. Deep Plane Facelift เป็นการผ่าตัดดึงหน้า ลงไปที่เนื้อเยื่อชั้นลึกของใบหน้ากว่าชั้น SMAS รวมถึงกล้ามเนื้อและแผ่นไขมัน วิธีนี้จะให้ผลลัพธ์ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และยาวนานกว่าการผ่าตัดยกกระชับใบหน้าแบบดั้งเดิม (Facelift) 
  3. High SMAS Facelift เป็นเทคนิคดึงหน้าแบบลึก และกว้าง พัฒนามาจาก Deep Plane Facelift โดยเทคนิคนี้มีการยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อชั้น SMAS ไปจนถึงชั้นกล้ามเนื้อใต้กระดูกขากรรไกร (Masticator muscle) ส่งผลให้ใบหน้ายกกระชับ เต่งตึงขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นบริเวณหว่างคิ้วได้อีกด้วย

นอกจากนั้นยังมีการดึงหน้าเฉพาะส่วน เช่น

  1. Temporal Lift เป็นเทคนิคดึงหน้าบริเวณหน้าผาก โดยแพทย์จะทำการกรีดแผลบริเวณแนวไรผม จากนั้นจึงทำการยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก หน้าผากสูง หรือร่องลึกบริเวณหน้าผาก
  2. Neck Lift เป็นเทคนิคดึงหน้าบริเวณลำคอ โดยแพทย์จะทำการกรีดแผลบริเวณลำคอ จากนั้นจึงทำการยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหนียง คอหย่อนคล้อย หรือลำคอไม่กระชับ
  3. Endotine เป็นการใช้ Endotine ซึ่งเป็นวัสดุชนิดทางการแพทย์ที่จะเข้าไปยึดเกาะเนื้อเยื่อภายใน เพื่อยกคิ้วหรือดึงในส่วนของหน้าผากให้สูงขึ้น โดยวัสดุนี้ไม่เป็นอันตราย และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
  4. Mini Facelift เป็นเทคนิคดึงหน้าแบบเปิดแผลขนาดเล็ก โดยแพทย์จะทำการกรีดแผลขนาดเล็กบริเวณหน้าผากหรือใบหู จากนั้นจึงทำการยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อย
  5. Thread Lift หรือร้อยไหม เป็นเทคนิคดึงหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์จะทำการร้อยไหมลงไปใต้ผิวหนังบริเวณใบหน้า จากนั้นจึงดึงไหมให้ตึงขึ้น เทคนิคนี้สามารถยกกระชับใบหน้าเพียงชั่วคราว ซึ่งผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
  6. Laser Skin Resurfacing เป็นเทคนิคการยกกระชับผิวหน้าโดยใช้เลเซอร์ โดยเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเซลล์ผิวชั้นบนและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เทคนิคนี้สามารถช่วยลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นบริเวณใบหน้าได้ อาจแต่ผลลัพธ์ไม่เทียบเท่าการดึงหน้า
โครงสร้างชั้นผิวของมนุษย์

ขั้นตอนการผ่าตัด จะเริ่มจากการผ่าตัดเพื่อเปิดแผล จากนั้นแพทย์จะค่อยๆ เคลียร์เนื้อเยื่อ โดยเริ่มทําการเลาะชั้นผิวหนังทีละชั้น เริ่มจากบริเวณผิวหนังชั้นนอก (Epidermis) ชั้นหนังแท้ (Dermis) ขั้นไขมัน (Subcutis) จนกระทั่งไปถึงชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน หรือผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ที่มีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อพังผืด ซึ่งมีความเหนียวและหนา เป็นชั้นผิวที่มีบทบาทสําคัญในการยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึง

หลังจากนั้นแพทย์จะทําการเย็บขึงผิวชั้น SMAS ไว้เป็นจุดๆ สำหรับในบางกรณี เช่น บริเวณหน้าผากด้านบน ใบหน้าส่วนล่างและบริเวณลําคอ แพทย์อาจพิจารณาใช้เทคนิคการฝังเอนโดไทน์ (Endotine) ลงในชั้นผิวเพื่อปรับให้ผิวชั้นนี้ให้ตึงกระชับ จากนั้นจึงทําการดึงผิวชั้นบนให้ตึงมากขึ้นด้วยการตัดแต่งเนื้อเยื่อและผิวหนังส่วนเกินออก และเย็บปิดแผลด้วยการใช้ไหมเส้นเล็กร่วมกับการใช้เทคนิคซ่อนแผล เพื่อทําให้มีรอยแผลเป็นขนาดเล็ก สังเกตเห็นได้ยาก

แผลผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า

ผิวหนังที่ถูกตัดออกจากขั้นตอนโปรแกรมดึงหน้า (Facelift)

แพทย์ YKJ Medical Clinic มีเทคนิคในการดึงชั้นผิวหนังที่คลอบคลุมในหลายๆ ชั้นผิว และเทคนิคในการการเย็บปิดแผลที่แตกต่างจากการดึงหน้าโดยปกติทั่วไป จึงทำให้

  1. ยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย และริ้วรอยเหี่ยวย่นต่างๆ อย่างเห็นผล 
  2. ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานกว่าเทคนิคแบบดั้งเดิม

โดยทุกหัตถการที่ YKJ Medical Clinic เราเน้นเรื่องผลลัพธ์และความปลอดภัย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของคนไข้มาเป็นอันดับหนึ่ง

คลิกจองคิวหรือปรึกษา

โทรปรึกษา

⇧ กลับสู่สารบัญ

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าทําตําแหน่งใด? และแต่ละตําแหน่งช่วยแก้ปัญหาอะไร?

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าเพื่อช่วยยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึงและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกทําได้หลากหลายตําแหน่ง โดยคนไข้สามารถเลือกทําเฉพาะส่วนแบบแผลเล็ก (Mini Facelift) หรือเลือกผ่าตัดดึงหน้าแบบทั่วทั้งใบหน้า (Full Facelift) ในตําแหน่งต่างๆ ได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ดึงหน้าส่วนบน (Upper Facelift / Temporal Lift) เป็นการดึงหน้าในบริเวณหน้าผาก ขมับ และช่วงหางตาให้ยกขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหารอยย่นหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว คิ้วตก ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก ตาดูเศร้า ดูง่วงตลอดเวลา ตลอดไปจนถึงผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จนอาจรบกวนการมองเห็น
  2. ดึงหน้าส่วนกลาง (Mid Facelift) เป็นวิธีการที่ช่วยแก้ไขความหย่อนคล้อยในบริเวณส่วนกลางของใบหน้า ได้แก่ ริ้วรอยใต้ตา ร่องน้ําตา ริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม และปัญหาแก้มหย่อนคล้อย
  3. ดึงหน้าส่วนล่าง (Lower Facelift) เป็นการผ่าตัดดึงหน้าเพื่อแก้ไขความหย่อนคล้อย และริ้วรอยต่าง ๆ ในช่วงส่วนล่างของใบหน้า ได้แก่ ร่องน้ําหมาก ริ้วรอยบริเวณมุมปากและริ้วรอยรอบปาก แก้มส่วนล่าง เหนียงหรือคาง 2 ชั้น โดยการดึงหน้าส่วนล่างจะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กลง และทําให้กรอบหน้าดูคมชัดขึ้น
  4. ดึงคอ (Neck Lift) เป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อดึงผิวหนังบริเวณลําคอให้เต่งตึงมากยิ่งขึ้น ช่วยแก้ปัญหาผิวบริเวณลําคอเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อย คอมีรอยพับ คอเป็นชั้นหรือมีเหนียงที่คอ เพื่อปรับให้คอดูกระชับและเต่งตึง เป็นวิธีที่ช่วยเก็บกรอบหน้าให้คมชัดมากยิ่งขึ้น
  5. ยกคิ้วด้วยเทคนิค Endotine เป็นเทคนิคการผ่าตัดยกกระชับผิวที่มีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก โดยแพทย์จะทําการฝังเอนโดไทน์ (Endotine) เพื่อช่วยยึดล็อกหน้าผากให้สูงขึ้น แก้ปัญหาคิ้วตกหรือหย่อนคล้อย

โปรแกรมยกคิ้วด้วย เทคนิคส่องกล้อง Endoscopic

ลักษณะของ Endotine ที่ใช้ยึด

ตัวเอนโดไทน์ (Endotine) เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ผลิตมาจากวัสดุธรรมชาติ มีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ ทั้งแบบเป็นเส้นยาวหรือแบบเป็นชิ้นสามเหลี่ยมเล็ก ๆ คล้ายหมุด มีก้านคล้ายหนามยื่นออกมาโดยรอบ เพื่อช่วยกระจายแรงยึดและเสริมประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว ทั้งยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ๆ ในชั้นผิว ทําให้ผิวดูเรียบเนียน และเต่งตึง เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-2 ปี เอนโดไทน์จะค่อย ๆ สลายตัวไปจนหมด แต่จะคงผลลัพธ์เรื่องผิวยกกระชับได้นาน

ผลลัพธ์ โปรแกรมยกคิ้ว เทคนิคส่องกล้อง Endoscopic

ผลลัพธ์จากโปรแกรมดึงหน้า Full Facelift ร่วมกับโปรแกรมยกคิ้ว เทคนิคส่องกล้อง Endoscopic

สำหรับโปรแกรมดึงหน้าแบบทั่วทั้งหน้า หรือ Full Facelift เป็นวิธีการดึงหน้าในทุกๆ ส่วน เพื่อหวังผลในด้านความอ่อนเยาว์ โดยแพทย์จะใช้หลายๆ เทคนิคผสมผสานกัน ตามแต่ปัญหาของคนไข้

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนไข้มีปัญหาคิ้วตกมากๆ ดึงหน้าอย่างเดียวอาจไม่เห็นผลลัพธ์ด้านความเยาว์วัยแบบเต็มที่ แพทย์อาจพิจารณาทำ Full Facelift ร่วมกับ โปรแแกรมยกคิ้ว เทคนิคส่องกล้อง Endoscopic หรือในกรณีที่จะดึงคอ (Neck Lift) ถ้าบริเวณคอของคนไข้มีไขมันสะสมมากๆ หรือมีเหนียงเยอะ แพทย์จะทำการดูดไขมันออกก่อน เพื่อไม่ให้ย้วย และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น

คลิกอ่านเพิ่มเติม : Endotine ดึงหน้าผาก ยกคิ้ว แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยอย่างเห็นผล

⇧ กลับสู่สารบัญ

โปรแกรมดึงหน้า (Facelift) โปรแกรมร้อยไหม และโปรแกรมเลเซอร์ยกกระชับ ต่างกันอย่างไร?

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า โปรแกรมร้อยไหม และโปรแกรมเลเซอร์เพื่อการยกกระชับผิว เป็นหัตถการที่ล้วนแล้วแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อการยกกระชับผิวให้เต่งตึง ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้รูปและทําให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ แต่ทั้ง 3 หัตถการ ก็มีข้อแตกต่างกัน ดังนี้

โปรแกรมดึงหน้าเป็นวิธียกกระชับผิวที่จะต้องใช้การผ่าตัด มีการใช้ยาชาหรือยาสลบร่วมกับขั้นตอนการรักษา ใช้เวลาในการผ่าตัดนานซึ่งขึ้นอยู่กับความยากของแต่ละเคส ในขณะเดียวกันโปรแกรมร้อยไหมหรือโปรแกรมเลเซอร์ เป็นหัตถการยกกระชับผิวที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัดใหญ่ ใช้แค่เพียงการฉีดหรือแปะยาชาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ ใช้เวลาในการรักษาเพียง 30-50 นาที

หลังจากการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยแผลจะค่อยๆจางลงหลังจากการตัดไหม (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล) ในขณะที่โปรแกรมร้อยไหมใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 4-7 วัน และโปรแกรมเลเซอร์ใช้เวลาพักฟื้นน้อยที่สุด ประมาณ 2-3 วัน ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าและโปรแกรมร้อยไหมจะเห็นผลลัพธ์เรื่องความตึงกระชับได้ทันทีหลังการรักษา ส่วนโปรแกรมเลเซอร์ยกกระชับผิว เช่น การทํา Hifu, Thermage, Ulthera สามารถเห็นผลลัพธ์หลังการรักษาได้ทันที 20-30% และจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังช่วง 2-3 เดือนขึ้นไป

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าเป็นวิธีการยกกระชับผิวที่ให้ผลลัพธ์กึ่งถาวร โดยช่วยให้ผิวยกกระชับ เต่งตึง และคงอยู่ได้ยาวนาน ส่วนโปรแกรมร้อยไหมและโปรแกรมเลเซอร์จะให้ผลลัพธ์แบบชั่วคราว โดยโปรแกรมร้อยไหมจะอยู่ได้นานประมาณ 4-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้ เช่น ไหมเรียบ ไหมเงี่ยง และไหมโครงตาข่าย) ส่วนโปรแกรมเลเซอร์ยกกระชับผิว จะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าจะมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด โดยทั่วไปราคาจะเริ่มต้นที่ 90,000 บาท รองลงมาคือโปรแกรมเลเซอร์ ที่มีระดับราคาแตกต่างกันไปตามจํานวนช็อตที่ใช้ มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น และโปรแกรมร้อยไหมที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและจํานวนเส้นไหมที่ใช้ในการรักษา

อ่านเพิ่มเติม: ความรู้เกี่ยวกับการร้อยไหม

⇧ กลับสู่สารบัญ

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า

เพื่อช่วยลดโอกาสที่แผลผ่าตัดจะเกิดอาการบวมช้ําหรืออักเสบ จนทําให้แผลหายได้ช้า คนไข้ควรดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า ดังนี้

  • ประคบเย็นในช่วง 2-3 วันหลังการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า โดยการใช้เจลแพ็กหรือผ้าขนหนูเปียกแช่ช่องแข็ง แล้วห่อด้วยผ้าสะอาดใช้ประคบที่แผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดและอาการบวมช้ําของแผล
  • ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ําอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลอักเสบและหายช้า
  • หลีกเลี่ยงการแคะ แกะ เกา หรือใช้นิ้วสัมผัสบริเวณแผล เพื่อป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อและอักเสบ
  • ควรหนุนศีรษะด้วยหมอนสูง อย่างน้อย 3-7 วันหลังการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า เพื่อช่วยลดอาการบวม
  • ดูแลทําความสะอาดแผลตามคําแนะนําของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทานยาที่ทางคลินิกจัดให้ต่อเนื่องกันจนหมด และเข้าพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
  • งดย้อนสีผม ยืดผมหรือการทําเคมีใด ๆ ที่ผม อย่างน้อย 1 เดือนหลังการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า
  • งดทานอาหารที่มีส่วนกระตุ้นให้แผลผ่าตัดเกิดอาการอักเสบ บวม แดง หรืออาหารที่อาจทําให้เกิดอาการแพ้ อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เช่น อาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารที่มีรสจัด อาหารทะเล รวมไปจนถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
  • ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรเลือกกินอาหารที่มีรสอ่อน ๆ เนื้อนิ่มและเคี้ยวง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้โครงหน้าเคลื่อนมากเกินไป หรือทําให้เจ็บแผลผ่าตัดในระหว่างการเคี้ยวอาหาร
  • หลีกเลี่ยงการทํากิจกรรมหนัก ๆ ที่ทําให้ศีรษะ ใบหน้า และลําคอได้รับแรงกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า เช่น การออกกําลังกายหนัก ๆ การวิ่ง การกระโดด เป็นต้น

⇧ กลับสู่สารบัญ

ทําไมถึงต้องผ่าตัดดึงโปรแกรมหน้าที่ YKJ Medical Clinic?

ผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าที่ไหนดี?  YKJ Medical Clinic ให้ผลลัพธ์ผิวที่ดูอ่อนเยาว์ ใบหน้าดูกระชับ เต่งตึง

  • ดูแลทุกขั้นตอนโดยแพทย์ และพยาบาล
  • ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ สะอาด
  • ผ่าตัดด้วยเทคนิค Deep Plane Facelift ควบคู่กับเทคนิคของคลินิก “Scarless Facelift” ในการเย็บแบบซ่อนแผล ทำให้รอยแผลมีขนาดเล็ก และให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับมากกว่าเทคนิคแบบดั้งเดิม
  • วางแผนการรักษาเฉพาะรายบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เข้ากับใบหน้าของคนไข้ 

⇧ กลับสู่สารบัญ

6 คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า

ระยะเวลาที่สําหรับการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการผ่าตัด และความยากในการผ่าตัดของแต่ละเคส

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าเป็นหัตถการยกกระชับผิวที่ให้ผลลัพธ์ในระดับกึ่งถาวร ไม่สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต โดยผลลัพธ์หลังการรักษาก็จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และวิธีการดูแลผิวของคนไข้หลังเข้ารับการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า

การผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้า (Facelift) สามารถเริ่มทําได้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่ผิวเริ่มมีปัญหาหย่อนคล้อย เช่น ในช่วงอายุ 30 ปี โดยสามารถเลือกผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าเฉพาะส่วนที่มีปัญหา เช่น ดึงหน้าส่วนบนสําหรับคนที่มีริ้วรอยหน้าผากค่อนข้างชัด หรือการดึงหน้าส่วนล่างสําหรับคนที่มีเหนียงเยอะ มีคางสองชั้น หรือดึงหน้าทั่วทั้งหน้าก็สามารถทําได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาผิวและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมมากที่สุด

หลังการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าอาจเกิดอาการบวมหรือช้ําที่บริเวณแผลผ่าตัด โดยจะมีรอยช้ําอย่างชัดเจนในช่วง 1-3 วันแรก และเมื่อผ่านไปประมาณ 3-4 สัปดาห์รอยบวม รอยช้ําจะค่อย ๆ จางลง

ผู้ที่มีโรคประจําตัว หรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเหล่านี้ ควรหลีกเลี่ยงการผ่าตัดโปรแแกรมดึงหน้า

  • ผู้หญิงที่กําลังอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือคุณแม่ที่กําลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีโรคประจําตัวที่เป็นข้อห้ามหรือมีข้อจํากัดในการผ่าตัดใหญ่ เช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ โรคเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นการทํางานของหัวใจ (Pacemaker) ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการหายของแผล ฯลฯ
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชาหรือแพ้ยาสลบ

หลังการผ่าตัดโปรแกรมดึงหน้าอาจมีรอยแผลของการผ่าตัด จึงควรทิ้งช่วงให้แผลแห้งและเริ่มสมานตัวดีก่อน หลังจากนั้นจึงสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ

คลิกจองคิวหรือปรึกษา

โทรปรึกษา

⇧ กลับสู่สารบัญสุรัตนา คล่องตระกูล