จมูกทะลุ จมูกบุ๋ม ปัญหาใหญ่หลังเสริมจมูกที่ต้องแก้ด่วน

ในปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมจมูก นับเป็นการศัลยกรรมเสริมความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะการเสริมจมูกนั้นช่วยปรับแก้ทรงจมูกให้จมูกโด่งสูง เป็นสันได้อย่างที่ใจต้องการ ในขณะที่หลาย ๆ คนประสบความสำเร็จและพึงพอใจหลังการผ่าตัดเสริมจมูก แต่ก็คนอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องผิดหวังและประสบปัญหา จมูกทะลุ จมูกบุ๋ม หลังการผ่าตัดเสริมจมูก ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การเลือกใช้ขนาดซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม การถอดพักจมูกโดยไม่มีการรองเนื้อเยื่อไขมัน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดปัญหาจมูกบุ๋ม จมูกทะลุ จนต้องกลับเข้ามาแก้จมูกซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ สูญเสียทั้งเงินและเวลา ทั้งยังทำให้จมูกดูผิดรูปจนแทบจะหมดความมั่นใจ

จมูกทะลุ มีลักษณะอย่างไร

จมูกทะลุ (Nasal Perforation) หากกำลังสงสัยว่าจมูกที่เสริมมาเสี่ยงทะลุหรือไม่ สามารถสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นว่าปลายจมูกเริ่มบาง และเสี่ยงจมูกทะลุได้ ดังนี้

  • เริ่มรู้สึกถึงอาการตึงรั้งที่ปลายจมูกมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในเคสที่ซิลิโคนมีขนาดยาวหรือทรงจมูกพุ่งสูง ปลายเชิดมากเป็นพิเศษ หากใช้นิ้วมือลูบที่บริเวณปลายจมูกจะรู้สึกเสียวแปลบชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะปลายจมูกที่บางลงทำให้ไวต่อความรู้สึกมากขึ้น
  • สันจมูกหรือปลายจมูกเป็นมันวาว สะท้อนแสง โดยจะสังเกตได้ว่าผิวที่บริเวณปลายจมูกจะแววและใสมากว่าผิวส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่กลางแจ้ง เพราะเนื้อปลายจมูกบางมากจนทำให้ซิลิโคนที่อยู่ใต้ผิวเริ่มสะท้อนแสง
  • ปลายจมูกเริ่มมีสีเปลี่ยนไป โดยอาจมีสีแดงช้ำ สีคล้ำขึ้น หรือในบางรายปลายจมูกเริ่มมีสีที่ซีดลง
  • ปลายจมูกยาวและงุ้มต่ำลงมากผิดปกติ นั่นเป็นเพราะซิลิโคนเกิดการเคลื่อนตัวไปที่ปลายจมูก หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะเสี่ยงทำให้จมูกทะลุ
  • รู้สึกเจ็บที่ปลายจมูกเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะในเคสหลังผ่าตัดใหม่ ๆ ที่โดยปกติแล้วอาการปวดบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และหายไปจนหมดเมื่อครบ 1 เดือน แต่หากอาการปวดบวมเหล่านี้ไม่ดีขึ้นและดูเหมือนจะแย่ลงกว่าเดิม มีหนองและเลือดไหลออกจากแผลผ่าตัด นั่นอาจเป็นเพราะจมูกเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เนื้อเยื่อจมูกตายและทำให้จมูกทะลุได้

ในเคสที่อาการชัดที่สุดคือ มีซิลิโคนโผล่ออกมาที่สันจมูกหรือปลายจมูก บางเคสอาจเจอปัญหาซิลิโคนทะลุโดยที่ไม่รู้ตัว หากเจอปัญหานี้ควรรีบเข้าพบแพทย์โดยทันที ห้ามใช้นิ้วสัมผัส จับ ดันหรือจัดทรงจมูกด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้จมูกเกิดการติดเชื้อได้

สาเหตุที่ทำให้จมูกทะลุเกิดจากอะไรบ้าง

  • การเลือกใช้ซิลิโคนที่มีขนาดไม่เหมาะสมจนทำให้ฝืนเนื้อมากเกินไป เช่น ซิลิโคนมีขนาดยาวมากเกินไป หนาเกินไป ใหญ่เกินไป หรือซิลิโคนแหลมเกินไป โดยเฉพาะในเคสที่จมูกสั้น เนื้อจมูกน้อยแต่ต้องการเสริมให้ปลายจมูกพุ่งสูงมาก ๆ หรือเสริมปลายหยดน้ำ ทรงจมูกที่ไม่เหมาะกับฐานจมูกเดิมก็อาจเสี่ยงทำให้จมูกทะลุได้
  • ซิลิโคนที่ใช้ไม่มีมาตรฐาน เป็นซิลิโคนปลอม โดยซิลิโคนปลอมจะส่งผลให้เนื้อเยื่อที่อยู่โดยรอบซิลิโคนเกิดอาการอักเสบและติดเชื้อได้
  • จมูกทะลุที่เกิดขึ้นเพราะการวางซิลิโคนผิดตำแหน่ง วางซิลิโคนผิดชั้น
  • จมูกทะลุเพราะจมูกได้รับแรงกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงหลังการเสริมจมูก หรืออาจเกิดขึ้นจากการใช้นิ้วมือ สัมผัส ขยับ หรือโยกซิลิโคนบ่อย ๆ
  • จมูกทะลุจากอาการอักเสบและติดเชื้อเพราะคนไข้ขาดการดูแลตัวเองที่ดีพอหลังการเสริมจมูก เช่น การทานอาหารรสจัด อาหารหมักดอง การปล่อยให้แผลผ่าตัดเปียกหรือชื้นเป็นเวลานาน กินยาที่ทางคลินิกสั่งจ่ายให้ไม่ครบ ฯลฯ จนทำให้แผลผ่าตัดเกิดการอักเสบและติดเชื้อ

วิธีแก้ไขปัญหาจมูกทะลุ

ในเคสที่มีปัญหาจมูกบางหรือจมูกทะลุ แพทย์จะทำการรักษาด้วยการใช้วิธีการเสริมจมูกแบบเปิดหรือการเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) โดยแพทย์ทำการประเมินสภาพจมูกของคนไข้ว่าปัญหาจมูกทะลุมีความรุนแรงระดับใด หากมีอาการทะลุที่ชัดเจนและติดเชื้ออย่างรุนแรง แพทย์จะทำการถอดพักเพื่อให้เนื้อเยื่อบริเวณปลายจมูกได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตนเอง โดยจะใช้เวลาพักจมูกประมาณ 4-6 เดือน (ขึ้นกับความรุนแรงของแต่ละเคส) โดยในระหว่างนี้แพทย์อาจพิจารณารองเนื้อเยื่อไขมันที่บริเวณสันจมูกและปลายจมูก เพื่อป้องกันจมูกบุ๋มหลังการถอดพัก เมื่อครบระยะกำหนดพักฟื้นจะสามารถเข้ารับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขจมูกได้อีกครั้ง โดยแพทย์จะใช้การเสริมซิลิโคนแค่ช่วงสันและเสริมปลายจมูกด้วยเทคนิคอื่น ๆ และจะไม่ใช่ซิลิโคนเพื่อลดโอกาสจมูกทะลุซ้ำซ้อน เช่น การใช้วัสดุรองปลาย การเย็บอินเตอร์โดม เทคนิคยืดผนังกั้นจมูก เป็นต้น

คลิกสอบถามโปรโมชั่น หรือปรึกษา

ในเคสที่ปลายจมูกเริ่มบางเพียงเล็กน้อยและซิลิโคนยังไม่ทะลุออกมา แพทย์จะทำการผ่าตัดโอเพ่นและนำเอาซิลิโคนเดิมออกจากจมูก จากนั้นจึงใช้เทคนิควิธีการเสริมจมูกที่เหมาะสมและป้องกันปัญหาจมูกทะลุ ด้วยการเสริมซิลิโคนเฉพาะช่วงสันจมูก แต่ตรงส่วนปลายจะใช้วัสดุอื่น ๆ เพื่อปรับให้ปลายเชิดขึ้นและลดความเสี่ยงจมูกทะลุ เช่น การใช้กระดูกอ่อนหลังใบหู กระดูกอ่อนซี่โครง เนื้อเยื่อก้นกบ เนื้อเยื่อเทียม ฯลฯ

อ่านเพิ่มเติม : แก้จมูก เสริมจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น ปลายไร้ซิลิโคน

จมูกบุ๋ม มีลักษณะอย่างไร

จมูกบุ๋ม เป็นลักษณะอาการที่มีรอยบุ๋ม รอยบุ๋มลึกคล้ายแอ่งกระทะที่ส่วนต่าง ๆ ของจมูก แต่ปัญหาจมูกบุ๋มที่พบเจอได้บ่อยจะเป็นปัญหาจมูกบุ๋มที่ส่วนปลายของจมูก จมูกบุ๋มคล้ายแอ่งกระทะ และจมูกบุ๋มอย่างรุนแรง ที่เกิดขึ้นเพราะจมูกทะลุและมีเนื้อเยื่อบางส่วนตาย

สาเหตุที่ทำให้จมูกบุ๋ม คืออะไร

ปัญหาจมูกบุ๋มเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการเสริมจมูก ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นหลังการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแล้วมีความจำเป็นบางอย่างทำให้ต้องถอดพัก เช่น ปัญหาจมูกเอียง จมูกเบี้ยว ปลายจมูกบาง ซิลิโคนเอียง ฯลฯ และเมื่อถอดซิลิโคนเก่าออกแล้วแต่ไม่มีการเสริมซิลิโคนใหม่เข้าไป หรือไม่ได้รองด้วยเนื้อเยื่อไขมันเอาไว้ จะทำให้เกิดเป็นโพรง หรือช่องว่างที่บริเวณสันจมูกและปลายจมูก ร่างกายจึงเริ่มสร้างพังผืดออกมาเพื่อปิดช่องว่างเหล่านี้ เมื่อกลุ่มก้อนพังผืดที่เกิดใหม่จับตัวกันจะให้ผิวบริเวณจมูกเกิดการหดรั้งตัว และสังเกตเห็นเป็นรอยบุ๋มที่ผิวด้านนอกของจมูกได้อย่างชัดเจน

อ่านเพิ่มเติม : ถอดจมูกแล้วบุ๋ม ต้องแก้ยังไง เปลี่ยนจมูกใหม่ให้สวยกว่าเดิม

วิธีแก้ไขปัญหาจมูกบุ๋ม

สามารถแก้ไขปัญหาจมูกบุ๋มได้หลากหลายรูปแบบ ในเคสที่มีปัญหาจมูกบุ๋มเพียงเล็กน้อยสามารถใช้วิธีการนวดจมูกเพื่อลดพังผืดทำให้รอยบุ๋มดูดีขึ้นได้ แต่ในเคสที่มีรอยบุ๋มลึกและชัด แพทย์จะทำการประเมินระดับความรุนแรงของปัญหา และเลือกใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของคนไข้ โดยวิธีการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาจมูกบุ๋มมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี ดังนี้

  • เน้นการผ่าตัดพังผืดใต้แผล โดยไม่ตัดแต่งผิวหนังบริเวณปลายจมูกใหม่ คนไข้บางรายไม่ต้องการให้ตัดแต่งแก้รอยบุ๋มที่จมูกด้านนอก และเลือกวิธีผ่าตัดเพื่อปรับแก้พังผืดใต้แผลแทน โดยหลังจากที่เลาะเอาพังผืดใต้แผลออกจนหมด แพทย์จะทำการเสริมจมูกด้วยวิธีที่เหมาะสม สำหรับคนไข้ที่มีเนื้อจมูกน้อย เนื้อปลายน้อย แพทย์จะใช้เทคนิคการรองปลายด้วยวัสดุ เช่น กระดูกอ่อนหลังใบหู เนื้อเยื่อเทียม หรืออาจใช้ไขมันของคนไข้ฉีดที่บริเวณจมูกเพื่อแก้ปัญหาจมูกบุ๋ม
  • ตัดแต่งผิวหนังบริเวณปลายจมูกที่มีรอยบุ๋ม ในเคสที่มีขอบรอยบุ๋มชัดมากแและมีเนื้อปลายจมูกเยอะ แพทย์สามารถทำการตกตัดแต่งผิวหนังที่มีรอยบุ๋มไปพร้อม ๆ กับการเสริมจมูกไปพร้อมกัน โดยจะใช้เป็นการฉีดไขมันของคนไข้เพื่อแก้รอยบุ๋มที่จมูก แต่หากต้องการตกแต่งผิวหนังให้เสร็จ แล้วค่อยนัดเสริมจมูกอีกครั้งก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการเสริมจมูกในครั้งหลัง อาจใช้เป็นการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน รองปลายด้วยกระดูกอ่อน หรืออาจใช้การฉีดไขมันของคนไข้เอง
  • ในเคสที่จมูกบุ๋มเพราะจมูกทะลุซึ่งมักมีเนื้อจมูกเหลือน้อย เคสนี้แพทย์จะใช้เนื้อเยื่อของคนไข้เพื่อแก้ปัญหาจมูกบุ๋ม ซึ่งวิธีนี้จะช่วยป้องกันการอักเสบและติดเชื้อซ้ำซ้อนจนทำให้ปลายจมูกเบี้ยวและผิดรูปมากกว่าเก่า

คลิกสอบถามโปรโมชั่น หรือปรึกษา

วิธีป้องกันปัญหาจมูกทะลุ จมูกบุ๋ม

  • ควรเลือกเสริมจมูกกับคลินิกที่มีคุณภาพ ใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐานและผ่านการรับรอง ตรวจเช็กรายละเอียดของคลินิกให้ครบถ้วน ทั้งชื่อสถานประกอบการ รีวิวจากลูกค้าตัวจริง เพื่อใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจ
  • ผู้ทำการผ่าตัดจะต้องเป็นแพทย์ด้านการเสริมจมูกและแก้จมูกโดยเฉพาะเท่านั้น ควรตรวจเช็กใบประกอบวิชาชีพของแพทย์ รวมไปจนถึงหาข้อมูลรีวิวจากหลาย ๆ แหล่งเพื่อความละเอียด
  • แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องให้คำแนะนำ และวิเคราะห์ปัญหาจมูกของคนไข้แต่ละรายได้โดยละเอียด ระดับราคามีความสมเหตุสมผล ไม่ควรเลือกเสริมจมูกหรือแก้ทรงจมูกที่มีราคาถูกหรือราคาต่ำกว่าท้องตลาดมาก ๆ เพราะการเสริมจมูก โดยเฉพาะในเคสของการแก้จมูกบุ๋มหรือจมูกทะลุมักมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นเคสแก้ที่ต้องอาศัยความรู้และความสามารถของแพทย์ นอกไปจากนี้ควรเลือกคลินิกที่ให้การรักษาอย่างตรงไปตรงมา ชี้แจงค่าใช้จ่ายสำหรับการแก้จมูกได้อย่างชัดเจน ไม่มีการบังคับขายคอร์สราคาแพง ๆ เพิ่มเติม

home หน้าแรก promotion โปรโมชั่น tel ปรึกษาฟรี line ปรึกษาฟรี

ลงทะเบียนรับส่วนลดทำจมูก

รับส่วนลดทำจมูกโอเพ่น สูงสุด 50,000 บาท

โดยพนักงานจะติดต่อกลับภายใน 2 วันทำการ

(รับจำกัดเพียง 5 เคส/เดือน)

Inquiry Form

After receiving the information, we will contact you back within 2 business days. Alternatively, you can contact us urgently via Whatsapp by “Click Here”