โปรแกรมดึงหน้ากลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหน้ามักสูญเสียความกระชับและยืดหยุ่น ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว อย่างไรก็ตาม การดึงหน้าหรือการยกกระชับผิวหน้าก็ไม่ปราศจากความเสี่ยงและผลข้างเคียง ที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจทำ.
ผลกระทบในระยะสั้นหลังการดึงหน้า
หลังจากการดึงหน้า ผู้ที่ได้รับการทำหัตถการอาจประสบกับผลข้างเคียงเบื้องต้นที่เกิดขึ้นในช่วงแรก ซึ่งแม้ว่าจะไม่อันตรายแต่ก็ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวในบางกรณี
1.1 อาการบวมและฟกช้ำ
หนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยหลังการดึงหน้าคือ อาการบวม ซึ่งเป็นปฏิกิริยาทางธรรมชาติจากการที่ผิวถูกดึงขึ้นและปรับตำแหน่งใหม่ การบวมอาจเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณรอบ ๆ ตาและกรอบหน้า แต่ในกรณีส่วนใหญ่จะหายไปภายในไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการทำหัตถการ
ฟกช้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จากการดึงหน้าหรือการปรับตำแหน่งของผิว ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่เข้ารับการดึงหน้าเกิดความกังวลใจ อย่างไรก็ตาม ฟกช้ำมักจะค่อย ๆ จางหายไปตามเวลา การใช้ความเย็นประคบในช่วงแรกจะช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำได้ดีขึ้น
1.2 รอยแผลเป็น
แม้ว่าเทคนิคการดึงหน้าที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น โปรแกรม HIFU หรือ RF จะไม่ทำให้เกิดแผลผ่าตัด แต่หากเป็นการดึงหน้าด้วยการผ่าตัด รอยแผลเป็นก็เป็นหนึ่งในผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น รอยแผลเหล่านี้มักจะซ่อนอยู่ตามรอยพับหูหรือใต้คาง แต่ในบางกรณี หากไม่ดูแลแผลอย่างถูกวิธีอาจทำให้แผลเป็นปรากฏให้เห็นได้
1.3 การติดเชื้อ
การทำหัตถการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดหรือการทำลายเนื้อเยื่อในร่างกายย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิด การติดเชื้อ แม้ว่าแพทย์จะทำการรักษาความสะอาดอย่างดีหลังการทำหัตถการ แต่การติดเชื้อยังคงเป็นความเสี่ยงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หากผู้เข้ารับการดึงหน้าไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลแผลหลังการทำหัตถการ อาจทำให้การติดเชื้อเกิดขึ้นได้


ผลข้างเคียงในระยะยาว
ผลลัพธ์จากการดึงหน้าจะดูสดใสและกระชับในช่วงแรก แต่ในระยะยาวก็มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
2.1 การเสื่อมสภาพของผิวหน้า
การดึงหน้าทำให้ผิวหน้ามีการปรับตำแหน่งใหม่และยืดผิวให้กระชับขึ้น แต่หากการดึงหน้าทำได้ไม่ดีพอ หรือเกิดความตึงที่มากเกินไปอาจทำให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ปัญหาผิวที่มีความหย่อนคล้อยอาจกลับมาอีกครั้งในอนาคต นอกจากนี้ ผิวที่ถูกดึงขึ้นอาจสูญเสียความยืดหยุ่นตามธรรมชาติ และทำให้เกิดริ้วรอยใหม่ ๆ หรือความแห้งกร้านได้
2.2 การเปลี่ยนของรูปหน้า
การดึงหน้าบางครั้งอาจทำให้เกิด รูปหน้าที่ไม่สมดุล เมื่อใบหน้าถูกดึงขึ้นอย่างมากเกินไป อาจทำให้บางส่วนของใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ เช่น การยกของหน้าผากหรือรอบดวงตาที่สูงเกินไป ส่งผลให้ใบหน้าดูตึงหรือแปลกตา ในบางกรณีอาจต้องทำการแก้ไขผลลัพธ์หลังจากการทำหัตถการ


ความเสี่ยงจากการเลือกผู้ให้บริการ
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจทำการดึงหน้าคือการเลือก แพทย์เฉพาะทาง การทำหัตถการทางการแพทย์เช่นนี้ควรทำโดยแพทย์เฉพาะทางในการดูแลผิวหน้าและการศัลยกรรมใบหน้า หากเลือกผู้ให้บริการที่ไม่มีการศึกษาข้อมูล ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงตามที่คาดหวัง หรือการทำหัตถการที่ผิดวิธี
การเลือกวิธีการที่เหมาะสม
ในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยในการยกกระชับผิวหน้า โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด เช่น การยกกระชับด้วยคลื่นวิทยุ (RF) หรือ โปรแกรม HIFU ซึ่งเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าการผ่าตัด และไม่ทำให้เกิดรอยแผลหรือฟกช้ำมากนัก แต่การเลือกใช้วิธีการเหล่านี้ควรพิจารณาตามสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ได้มาตรฐาน


โปรแกรมดึงหน้าอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาอ่อนเยาว์และกระชับอีกครั้ง แต่ก็มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ต้องพิจารณาให้ดี เช่น การบวม ฟกช้ำ รอยแผลเป็น การติดเชื้อ หรือการเสื่อมสภาพของผิวหน้าในระยะยาว การเลือกผู้ให้บริการที่ได้มาตรฐาน และการเลือกวิธีที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำการดึงหน้า เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้มานั้นเป็นไปตามที่ต้องการและได้มาตรฐาน