7 สิ่งที่ควรทำ เมื่อหน้าเริ่มเป็นฝ้า

ปกใหม่7สิ่งที่ควรทำ

ฝ้าบนใบหน้าสร้างความไม่มั่นใจให้กับสาวๆ หลายคน บทความนี้หมอกันจะมาแนะนำเทคนิคการรักษาและบำรุงใบหน้าเพื่อแก้ปัญหากระ ฝ้า และจุดด่างดำอย่างถูกวิธี

7 วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงฝ้าบนใบหน้า

1. ทาครีมกันแดด

หนึ่งในวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฝ้าได้คือ เลี่ยงการเจอแสงแดดโดยตรงโดยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 PA+++ ก่อนออกจากบ้าน 15-30 นาที และทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง ก็จะช่วยป้องกันรังสี UVA/UVB ไม่ให้เข้ามาทำร้ายผิวจนเป็นรอยฝ้าได้ โดยต้นเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดฝ้า คือรังสี UV ที่ส่งคลื่นรังสีซึมลึกถึงชั้นเซลล์ผิว ทำให้เมลานินก่อตัวเพื่อป้องกันแดด หากไม่ทาครีมกันแดดเมลานินก็จะก่อตัวมากยิ่งขึ้น จนเป็นรอยฝ้าอย่างที่เห็น

2. หลีกเลี่ยงครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน

เมื่อฝ้าขึ้นหน้า หลายคนมองหาครีมบำรุงรักษาฝ้า ครีมที่โฆษณาชวนเชื่อว่า “รักษาฝ้าหายภายใน 3 วัน” “ผิวขาวขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้” มักมีสารเคมีทำร้ายผิว เช่น ไฮโดรคิวโนน ปรอท ใช้ครั้งแรกเห็นผลจริง แต่เมื่อหยุดใช้ สิวเห่อ ฝ้าลึก เสียค่ารักษาแพงกว่าครีมรักษาฝ้าที่ปลอดภัย

3. ทานอาหารเสริม

เลือกทานอาหารดีๆ ที่มีประโยชน์ อย่างผัก ผลไม้ ตับ เนื้อปลา หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด คาเฟอีน แอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ถ้าหากในแต่ละวันคุณทานอาหารที่มีวิตามินหรือแร่ธาตุไม่เพียงพอ สามารถเลือกทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ที่เป็นตัวช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อลดการเกิดฝ้า ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น

4. ทานยาปรับธาตุ

ฝ้า เกิดจากความร้อนจากแดด เตา หน้าจอคอม และหลอดไฟ รวมถึงฮอร์โมนในร่างกายที่แปรปรวน จนทำให้เกิดฝ้าแดด ฝ้าเลือด หรือฝ้าฮอร์โมนได้ การทานยาปรับธาตุจะช่วยบรรเทาพิษร้อนจากร่างกาย บำรุงเลือด และปรับฮอร์โมนให้คงที่ ไม่ว่าจะเป็นยาธาตุสูตรจีน ยาธาตุสูตรไทย ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน แต่ควรเลือกยาปรับธาตุที่ได้มาตรฐาน

5. สูตรสมุนไพรรักษาฝ้า

สมุนไพรบางชนิดอาจช่วยบำรุงผิวและลดการระคายเคืองได้ (โดยควรเลือกใช้ที่ได้มาตรฐาน) เพราะสมุนไพรจะเป็นตัวช่วยที่ทั้งรักษาและบำรุง ฟื้นฟูผิวหน้า พร้อมต่อต้านอนุมูลอิสระบนผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าเปล่าปลั่ง กระจ่างใส รอยฝ้าจางลงได้ดี ซึ่งอาจช่วยให้รอยฝ้าดูจางลงในบางรายครับ

6. ดูแลตัวเอง

หลีกเลี่ยงความเครียดที่ก่อให้เกิดฝ้า หันมานั่งสมาธิ ออกกำลังกายวันละ 30 นาที ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ งดบุหรี่ นอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง ก็จะสามารถช่วยให้ผิวหน้าแลดูสดใสขึ้น

7. ปรึกษาแพทย์

หากการรักษาฝ้าเบื้องต้นยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญด้านผิวหนัง เพื่อรับคำปรึกษาและสาเหตุที่แท้จริง รวมถึงรับการดูแลโดยตรงจากแพทย์ ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องคอยดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ฝ้าฝังลึกมากกว่าเดิม

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

home หน้าแรก promotion โปรโมชั่น tel ปรึกษาฟรี line ปรึกษาฟรี

Inquiry Form

After receiving the information, we will contact you back within 2 business days. Alternatively, you can contact us urgently via Whatsapp by “Click Here”