หากมีอาการผิดปกติหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นอาการบวมแดงเล็กน้อย ไปจนถึงมีผื่นแดงขึ้นมาโดยกระทันหันนั่นอาจเป็นสัญญาณของอาการแพ้ฟิลเลอร์ ถึงแม้ว่าอาการดังกล่าวจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยก็ตาม แต่หากเกิดขึ้นแล้วต้องดูแลตัวเองแบบไหนถึงจะป้องกันภาวะดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น วันนี้ผมจะมาเล่าสาเหตุและวิธีรับมือให้ฟังครับ
อาการแพ้ฟิลเลอร์เกิดจากอะไร
อาการแพ้ฟิลเลอร์เกิดจากการที่ร่างกายต่อต้านสารฟิลเลอร์ที่ถูกฉีดเข้าสู่ร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติบริเวณที่ฉีดหรืออาจลุกลามไปถึงบริเวณรอบข้าง ทั้งนี้อาการแพ้อาจเกิดจากสองสาเหตุ ได้แก่ การแพ้สารไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic acid) ซึ่งมีโอกาสขึ้นได้น้อยมากเนื่องจากเป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตและย่อยสลายได้เองตามกลไกของธรรมชาติ และอีกสาเหตุที่พบได้บ่อยคือการฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่มีราคาถูก หรือฉีดจากหมอกระเป๋าที่ไม่มีความรู้ในการฉีดมากพอ ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ และอาจทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ผิดรูปไปจากธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าที่อาจส่งผลต่อความมั่นใจของตัวคุณ และที่สำคัญหากปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายจนถึงแก่ชีวิตได้ด้วยเช่นกัน
ซิลิโคนเหลว อันตรายแค่ไหน หากนำมาทำหน้าอกจะเป็นอย่างไร?
อาการที่พบจากการแพ้ฟิลเลอร์
- มีรอยแดงหรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์นานกว่า 2 สัปดาห์
- เกิดอาการฟิลเลอร์ไหล คือฟิลเลอร์เคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งที่ฉีดไปยังบริเวณใกล้เคียง
- บริเวณที่ฉีดเป็นก้อน มีรอยนูน หรือแดงอักเสบ หลังจากฉีดมานานหลายเดือน
- พบก้อนหนองบริเวณที่ฉีดอันเนื่องมาจากการติดเชื้อ
- หลอดเลือดอุดตันและนำไปสู่อาการเนื้อตายบริเวณเส้นเลือดนั้น ๆ
- หากรุนแรงอาจมีผื่นและโรคลมพิษแบบรุนแรง (ต้องรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด)
- ตาบอด อันเนื่องมาจากฟิลเลอร์อุดตันหลอดเลือดแดงบริเวณจอประสาทตา
ใครบ้างที่เสี่ยงต่ออาการแพ้ฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีอาการแพ้ส่วนผสมในฟิลเลอร์ ได้แก่ สารไฮยาลูรอนิกแอซิด, คอลลาเจน, ลิโดเคน ฯลฯ
- สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่อยู่ในช่วงระหว่างให้นมบุตร
- ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด, ข้อต่อ, เส้นเอ็น
- ผู้มีปัญหาเลือดหยุดไหลยาก (Hemophilia)
- ผู้มีปัญหาผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ
- ผู้ที่รับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ได้แก่ ASA, NSAIDS, Vitamin E ฯลฯ
- ผู้ป่วยโรคเริม (งูสวัด)
หากแพ้ฟิลเลอร์ควรทำอย่างไร กินยาแก้ได้ไหม
ต้องเข้าใจก่อนว่าการแพ้ฟิลเลอร์เกิดจากการที่ร่างกายต่อต้านสารที่เป็นส่วนผสมของฟิลเลอร์ ไม่เหมือนกับอาการที่เกิดจากโรคอื่น ๆ ยาแก้แพ้ต่าง ๆ จึงไม่สามารถบรรเทาอาการได้ ทางที่ดีที่สุดอย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกวิธีจะดีที่สุดครับ แต่หากคุณมีเพียงก้อนแข็ง ๆ บริเวณที่ฉีดเพียงอย่างเดียว สามารถนวดอย่างเบามือบริเวณที่เป็นก้อน จนกว่าอาการจะดีขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์
ป้องกันการแพ้ฟิลเลอร์ได้ง่าย ๆ เพียงแค่
- ฉีดฟิลเลอร์จากสถานพยาบาลหรือคลินิกที่มีข้อมูลและเปิดทำการมาเป็นเวลานาน
- ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ ที่สามารถตรวจสอบข้อมูลตามช่องทางต่าง ๆ ของแพทย์ที่ทำการฉีดให้เราได้
- หลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกหรือเลือกฉีดกับหมอกระเป๋า
ดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์อย่างเคร่งครัดด้วยวิธีต่อไปนี้
- หลังฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 6 ชั่วโมงแนะนำให้ประคบน้ำแข็งบริเวณที่ฉีดโดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็น ประคบอย่างเบามือ
- งดการสัมผัสใบหน้า หากฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเกาหรือนวดใบหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ จนกว่าฟิลเลอร์จะเข้าที่
- กรณีที่ต้องล้างหน้า แนะนำให้ใช้น้ำอุณหภูมิห้องและหลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์อย่างน้อย 3 วันหลังการฉีด
- หากมีอาการปวดบริเวณที่ฉีด สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
- งดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการสัมผัสกับความร้อน เช่น การซาวน่า, การออกกำลังกาย, การอยู่ในพื้นที่แจ้ง
- งดอาหารที่มีผลต่อการสูบฉีดของเลือด เช่น ของหมักดอง, อาหารรสเผ็ด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 วัน เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดขยายตัวจนเกิดอาการบวมช้ำ
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 วัน เนื่องจากมีสารที่ส่งผลต่อการขยายตัวและการตีบตันของเส้นเลือด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร กระตุ้นให้สารไฮยาลูรอนิกแอซิดอุ้มน้ำ ช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูเข้ารูปมากขึ้น