เสริมจมูก หายใจไม่สะดวกเกิดจากอะไร? สามารถแก้ไขได้ยังไง?

“จมูก” เป็นอวัยวะบนใบหน้าที่มีความสำคัญทั้งในด้านศาสตร์ของความงาม เพราะเปรียบเป็นจุดกึ่งกลางของใบหน้า จมูกที่โด่งสูง เป็นสันเรียวสวยจะช่วยเพิ่มความมีมิติ ทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นสวยงามมากยิ่งขึ้น และจมูกก็ยังนับเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่องทางหลักที่ใช้สำหรับการหายใจและดมกลิ่น แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อย ประสบปัญหาเสริมจมูก หายใจไม่สะดวก

การเสริมจมูกที่ดีจะต้องได้ทรงจมูกที่สวยรับกับใบหน้าและไม่ส่งผลกระทบต่อระบบหายใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนไข้จำนวนไม่น้อยประสบ ปัญหาหายใจไม่สะดวก รู้สึกหายใจติดขัดหลังการเสริมจมูก โดยคนไข้จะรู้สึกว่าหายใจได้ไม่สะดวกเหมือนก่อนศัลยกรรมเสริมจมูก จนทำให้เกิดความกังวลว่าเกิดความผิดปกติที่จมูกหรือไม่ เสริมจมูกแล้วหายใจไม่สะดวก หายใจไม่ออกเกิดจากอะไร? หายใจติดขัดหลังเสริมจมูกอันตรายหรือไม่ มีวิธีการแก้ไขอย่างไร มาดูคำตอบไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้

อาการผิดปกติของระบบหายใจหลังเสริมจมูกเป็นอย่างไร?

ในช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัดเสริมจมูก คนไข้หลาย ๆ คน จะรู้สึกได้ว่าหายใจได้ไม่สะดวกเหมือนอย่างที่เคย รู้สึกเหมือนระบบหายใจทำงานติดขัด หายใจได้ไม่เต็มที่ ซึ่งภาวะอาการเหล่านี้นับเป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากการเสริมจมูก เพราะโครงสร้างและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในโพรงจมูกได้รับความเสียหายและทำให้เกิดอาการบวมหรืออักเสบ จนไปขัดขวางระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจได้ไม่สะดวกหรือรู้สึกว่าหายใจไม่ค่อยออก แต่อาการบวมเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปในช่วง 3-6 เดือนหลังการเสริมจมูก (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน) และระบบการหายใจจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

อ่านเพิ่มเติม : แก้จมูก เสริมจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น ปลายไร้ซิลิโคน

เสริมจมูก หายใจไม่สะดวก หายใจไม่ออก เกิดขึ้นจากสาเหตุใด?

ภาวะเสริมจมูก หายใจไม่สะดวก รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกหลังการเสริมจมูก อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุเหล่านี้

1. อาการบวมและช้ำที่เกิดขึ้นหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

โดยสามารถแบ่งระดับความรุนแรงของอาการบวมช้ำของจมูกได้ดังนี้

• หลังเสริมจมูก 24 ชั่วโมงในระยะนี้จะเกิดอาการบวมและช้ำหลังการผ่าตัดได้มากที่สุดและจะกินระยะเวลาไปอีกประมาณ 2-3 วัน โดยคนไข้อาจรู้สึกว่าบริเวณจมูกและใบหน้าของตนเองบวมมากขึ้นกว่าเก่า และรู้สึกหายใจได้ค่อนข้างลำบาก

• หลังเสริมจมูก 7 วัน เมื่อผ่านช่วงสัปดาห์แรกหลังจากเสริมจมูกอาการบวมช้ำจะค่อย ๆ ลดน้อยลง สามารถหายใจทางจมูกได้สะดวกมากขึ้นกว่าช่วง 2-3 วันแรกหลังการเสริมจมูก
• หลังเสริมจมูก 14-30 วัน จะเป็นช่วงที่จมูกฟื้นตัวได้มากขึ้น จมูกเริ่มยุบบวม ในบางรายที่ยุบบวมได้ไวระบบการหายใจก็จะกลับมาสู่สภาวะปกติ หรือในบางรายที่มีผิวหนังหนาอาจใช้เวลายุบบวมประมาณ 3-6 เดือน

ซึ่งอาการเสริมจมูก หายใจไม่สะดวก รู้สึกหายใจไม่ออกหลังการผ่าตัดเสริมจมูกเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ และจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อจมูกเริ่มยุบบวม โดยตัวคนไข้สามารถใช้การประคบเย็นในช่วง 2-3 วันแรกหลังเสริมจมูกเพื่อช่วยลดอาการบวม และทำให้เลือดแข็งตัวและหยุดไหลไวขึ้น

2. จมูกอักเสบและติดเชื้อหลังเสริมจมูก

เพราะคนไข้ขาดการดูแลตัวเองที่ดีพอหลังการผ่าตัดเสริมจมูก ทำให้จมูกเกิดอาการอักเสบและติดเชื้อ จมูกยุบบวมช้า มีเลือดและหนองไหลออกจากจมูก ส่งผลต่อการทำงานของระบบหายใจ หายใจไม่สะดวกและรู้สึกหายใจไม่ออก โดยพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้จมูกเกิดอาการอักเสบและติดเชื้อ มีดังนี้

• การปล่อยให้บริเวณแผลเปียกชื้นและไม่ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์หรือพยาบาล ทำให้บริเวณแผลเกิดอาการอักเสบ แผลเน่าและหายช้า
• ถอดเฝือกก่อนกำหนด คนไข้บางรายอยากเห็นทรงจมูกที่ทำมาไว ๆ จึงตัดสินใจถอดเฝือกที่ดามจมูกออกก่อนกำหนด (ก่อนครบ 7 วัน) ทำให้แผลยุบบวมและหายช้ากว่าเดิม ประกอบกับการดูแลทำความสะอาดแผลที่จมูกได้ไม่ดีพอก็อาจทำให้แผลเกิดการอักเสบขึ้นมาได้

• การนอนราบหรือนอนตะแตง ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังเสริมจมูก การนอนราบหรือนอนตะแตงจะทำให้จมูกบวมและช้ำมากขึ้น เสี่ยงทำให้ซิลิโคนเคลื่อน หรือบิดเอียงจนผิดรูป ส่งผลให้หายใจได้ไม่สะดวก รู้สึกหายใจได้ยากลำบาก
• จมูกได้รับแรงกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง หรือคนไข้ใช้นิ้วมือสัมผัส จับ โยก หรือดันบริเวณซิลิโคนที่เสริมมาบ่อย ๆ ทำให้จมูกฟื้นตัวและยุบตัวช้า
• การรับประทานอาหารที่กระตุ้นให้จมูกอักเสบ ได้แก่ อาหารหมักดอง อาหารรสจัด อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารแสลง อาหารทะเล ตลอดจนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาหารเหล่านี้มีส่วนเพิ่มโอกาสให้แผลที่จมูกเกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ในช่วง 1 เดือนแรกจึงควรเลือกกินอาหารอ่อน ๆ ที่ปรุงสุกใหม่เป็นหลัก รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้

3. หายใจไม่สะดวก หายใจไม่ออกหลังเสริมจมูกเพราะจมูกเบี้ยว ซิลิโคนเอียง

ปัญหานี้การเกิดได้จากการเลือกใช้ขนาดของซิลิโคนที่ยาวไปหรือการวางซิลิโคนผิดตำแหน่ง ทำให้ซิลิโคนเกิดการเอียง จมูกเบี้ยว ส่งผลทำให้หายใจได้ลำบาก หายใจไม่สะดวก

วิธีแก้ไขปัญหาหายใจไม่สะดวก หายใจไม่ออกหลังเสริมจมูก

หากใครที่กำลังประสบภาวะปัญหาหายใจไม่สะดวก หายใจไม่ออกหลังจากการเสริมจมูกก็ต้องไม่กังวลใจไป เพราะปัญหานี้สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้โดยมีวิธีการรักษาและแก้ไขที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละเคส

• ในเคสที่หายใจไม่ออก รู้สึกหายใจไม่สะดวกหลังการเสริมจมูก ที่เกิดขึ้นจากอาการบวมช้ำที่เกิดขึ้นเป็นปกติ สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ด้วยการประคบเย็นบริเวณจมูกในช่วง 2-3 วันแรกหลังการเสริมจมูก แล้วตามด้วยการประคบเย็น สามารถทานยาแก้อักเสบและยาลดบวมที่คลินิกหรือสถานพยาบาลจ่ายให้เพื่อช่วยลดบวม เมื่ออาการบวมลดลงก็จะช่วยให้หายใจได้สะดวกและคล่องขึ้น
• ในกรณีที่เกิดอาการเป็นหวัด คัดจมูก หลังการเสริมจมูก ควรทานยาแก้ไข้หรือยาลดน้ำมูก เพื่อบรรเทาอาการหวัด ทำให้หายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ช่วยลดโอกาสแผลอักเสบและติดเชื้อเพราะความชื้นจากน้ำมูก
• ในกรณีที่อาการบวมช้ำหลังการเสริมจมูกไม่ทุเลาลง หรือมีอาการปวด บวมแดงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มีเลือดหรือหนองไหลออกจากแผลไม่หยุด หายใจได้ลำบาก หายใจไม่ออก ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจมูกมีอาการอักเสบและติดเชื้อ ควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที โดยแพทย์จะทำการประเมินว่าจมูกเกิดอาการอักเสบและติดเชื้อรุนแรงมาก-น้อยเพียงใด ในกรณีที่มีอาการติดเชื้อและอักเสบอย่างรุนแรงแพทย์จะต้องผ่าตัดเพื่อนำซิลิโคนออกและฉีดยาปฏิชีวนะหรือจ่ายยาให้คนไข้ทาน เพื่อลดปัญหาจมูกติดเชื้อและอักเสบ โดยแพทย์จะให้คนไข้พักจมูกประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้เนื้อเยื่อได้ฟื้นฟูตัวเองและทำให้ระบบการหายใจกลับมาเป็นปกติดี จึงค่อยเสริมซิลิโคนเข้าไปใหม่อีกครั้ง

อาการเสริมจมูก หายใจไม่สะดวก หายใจไม่ออก เป็นอีกหนึ่งกลุ่มอาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการเสริมจมูก สาเหตุที่ทำให้หายใจได้ลำบากเป็นเพราะเยื่อบุด้านในจมูกมีอาการบวมและช้ำหลังการเสริมจมูก ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถจัดการให้ดีขึ้นได้ด้วยการประคบเย็นในช่วง 2-3 วันแรกหลังเสริมจมูก เพื่อช่วยให้จมูกยุบบวมไวขึ้น

นอกจากนี้สามารถบรรเทาอาการปวดบวมหลังการเสริมจมูกด้วยการทานยาที่ทางคลินิกหรือสถานพยาบาลจ่ายให้อย่างต่อเนื่องจนหมด ส่วนในเคสที่มีปัญหาหายใจไม่สะดวก หรือรู้สึกหายใจไม่ออกเพราะจมูกเกิดการอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง หรือเกิดจากปัญหาจมูกเบี้ยว (crooked nose) ซิลิโคนเอียงหลังเสริมจมูก ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการประเมินสภาพปัญหาและใช้วิธีการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

อ่านเพิ่มเติม : แก้จมูกที่ไหนดี? คลินิกแก้จมูกที่ดีที่สุด 2024