ไม่ว่าจะเป็นปีไหน ๆ การศัลยกรรมเสริมจมูกก็จัดเป็นศัลยกรรมเสริมความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เสมอมา รวมถึงปี 2024 นี้ด้วยเช่นเดียวกัน ที่กระแสการเสริมจมูกก็มาแรงสุด ๆ ด้วยทรงจมูกมาแรงทั้งจมูกทรงสายเกาเหมาะสำหรับสายหวาน หรือจะเป็นจมูกทรงสายฝอที่เน้นทรงโด่งสูง สันคมชัด ปรับใบหน้าให้ดูดีมากยิ่งขึ้น การเสริมจมูกให้ได้ผลลัพธ์ปลายทางที่สวยได้อย่างใจหวังมีหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไปไม่ได้คือการเลือกเสริมจมูกกับคลินิกที่มาตรฐาน การบริการมีคุณภาพ ดำเนินการรักษาโดยแพทย์การเสริมจมูกหรือแก้ทรงจมูกโดยเฉพาะ คำถามสำคัญถัดมาคือ เสริมจมูกที่ไหนดี? เสริมจมูกปลอดภัย ต้องรู้อะไรบ้าง? ให้ได้จมูกทรงสวยเนียนดูเป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัย งานไม่พัง ไม่ต้องแก้จมูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า YKJ Medical Clinic มีคำตอบ
เสริมจมูกที่ไหนดี? จมูกทรงไหนปัง จมูกทรงสวยยอดนิยมปี 2024
ก่อนจะตัดสินใจว่าควรเสริมจมูกที่ไหนดี มาดูทรงจมูกยอดนิยมประจำปี 2024 ทั้งจมูกสาวคม จมูกทรงสาวหวาน ที่ช่วยเสริมความงาม ไว้เป็นแบบที่ต้องการในใจและใช้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการปรึกษาแพทย์การเสริมจมูกต่อไป
1. ทรงจมูกสายฝอ สโลปโด่ง ปลายหยดนํ้า
เรียกได้ว่าเป็นทรงจมูกที่มาแรงสุด ๆ ในปี 2024 นี้ ด้วยทรงจมูกสายฝอที่เน้นการไฮไลท์ช่วงสันจมูกให้โด่งคม มองเห็นช่วงสันได้อย่างชัดเจน ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูคมชัดและมีมิติมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะมองมุมไหน ด้านซ้าย ด้านขวา หรือจะเป็นมุมหน้าตรงจมูกสายฝอ ที่เน้นสโลปโด่งสูงก็สวยพุ่งไม่สร่างซา ปิดจบด้วยการเติมปลายหยดน้ำน้อย ๆ ที่ปลายจมูกช่วยคอมพลีทลุคให้ซ่อนความหวานเบา ๆ
2. ทรงจมูกสโลปปลายพุ่ง
ทรงจมูกสายหวาน จมูกเสริมโหงวเฮ้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเสมอมา รวมถึงปี 2023 ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นทรงจมูกที่สามารถเข้ากับใบหน้าได้ทุกรูปทรง ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทรงสามเหลี่ยม หน้ารูปไข่ หรือหน้ารูปเพชร ด้วยการปรับเพิ่มสโลปตรงช่วงสันให้ได้ขนาดที่เหมาะสม ไม่โด่งสูงมากจนเกินไป เสริมช่วงปลายจมูกให้พุ่งสวยแบบพอเหมาะพอเจาะรับกับรูปหน้า เรียกได้ว่าทรงจมูกสโลปปลายพุ่งเป็นทรงจมูกที่เสริมแล้วดูสวยเนียน เป็นธรรมชาติมากที่สุดอีกหนึ่งทรงก็ว่าได้
3. ทรงจมูกสโลปปลายเชิด
ทรงจมูกยอดนิยมประจำปี 2023 ที่ตีคู่มากับทรงจมูกสโลปปลายพุ่ง แต่จะแตกต่างกันออกไปตรงที่ทรงนี้จะเน้นการปรับช่วงปลายให้ดูเชิดมากขึ้นเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาปลายจมูกงุ้ม ปลายจมูกหนา หรือปีกจมูกค่อนข้างกว้าง ส่วนตรงช่วงสันจะเน้นการเสริมสโลปให้เนียนสวยรับกับช่วงหัวตาและหน้าผากแบบพอเหมาะ ทรงนี้ใช้เสริมจมูกผู้หญิงก็ได้ เสริมจมูกผู้ชายก็นับว่าดี
4. ทรงจมูกสโลปปลายหยดนํ้า
ทรงจมูกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มีฐานจมูกเดิมค่อนข้างยาวและมีเนื้อปลายจมูกมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยการเสริมสโลปช่วงสันจมูกในระดับที่พอเหมาะ รับกับช่วงหัวตาและหน้าผากมากที่สุด งานดูสวยเนียนเป็นธรรมชาติ คอมพลีทลุคด้วยการปิดด้วยปลายหยดน้ำกลมกลึงที่บริเวณปลายจมูก ช่วยเพิ่มความหวานละมุนให้กับใบหน้า เสริมโหงวเฮ้งรับทรัพย์กระจาย
5. ทรงจมูกปลายกลม สันคม เรียวยาว
ทรงจมูกเสริมโหงวเฮ้งยอดนิยมประจำปี 2024 ที่หลาย ๆ คนต้องการมากที่สุด จมูกทรงนี้จะเน้นลักษณะช่วงปลายจมูกให้กลมมน เสริมช่วงสันจมูกให้เรียวยาวคมชัด เสริมพลังโหงวเฮ้งช่วยเสริมอำนาจ สร้างบารมี เหมาะกับคนที่ต้องทำงานเป็นทีมหรือมีลูกน้อง เป็นทรงจมูกที่ช่วยเพิ่มอำนาจและวาสนา เพิ่มความน่าเกรงขาม ดูน่าเคารพนับถือ
6. ทรงจมูกตุรกี
จมูกทรงตุรกี เป็นทรงจมูกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีรูปทรงที่สวยแบบธรรมชาติ ปลายจมูกเชิดขึ้นเล็กน้อย สันจมูกเรียบเนียน เหมาะกับทุกรูปหน้า ไม่ว่าจะหน้ากลม หน้าเหลี่ยม หน้ายาว หรือหน้ารูปไข่ เป็นต้น เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการแก้ไขจมูกแบบโอเพ่น (Open Reconstruction)
อ่านเพิ่มเติม : 6 ทรงจมูกเสริมโหงวเฮ้งยอดนิยม ใครกำลังจะเสริมจมูกต้องอ่าน 2024
เทคนิคเสริมจมูกแบบปิด VS เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น เลือกเสริมแบบไหนดีกว่ากัน
นอกไปจากการเลือกทรงจมูกที่ชอบไว้เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับปรึกษากับแพทย์ก่อนการเสริมจมูกแล้วนั้น อีกหนึ่งสิ่งที่เราควรศึกษาและทำความเข้าใจเอาไว้ก่อนเสริมจมูกหรือพิจารณาเลือกคลินิกเสริมจมูก คือ เทคนิควิธีการเสริมจมูกที่เหมาะสมกับปัญหาและทรงจมูกของตนเอง ข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธีเป็นอย่างไร คลินิกไหนที่โดดเด่นในการเสริมจมูกด้วยวิธีนั้น ๆ เพื่อให้เราสามารถตัดสินใจเลือกคลินิกเสริมจมูกปลอดภัยได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันมีเทคนิคการเสริมจมูกมากมายหลากหลายวิธี แต่มีวิธีเสริมจมูกที่ได้รับความนิยมในการเสริมจมูกอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่ การเสริมจมูกแบบธรรมดา (แบบปิด) (Close Rhinoplasty) และการเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) ที่ทั้ง 2 วิธีนี้ มีขั้นตอนการรักษา และมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
การเสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty)
เป็นเทคนิคการเสริมจมูกที่แพทย์ใช้ในการเสริมจมูกมาเป็นเวลายาวนาน เพราะเป็นวิธีการเสริมจมูกที่ทำได้ง่ายและรวดเร็วมากกว่า ด้วยการผ่าเปิดแผลขนาดเล็กภายในจมูก โดยแพทย์อาจกรีดแผลแค่เพียงข้างเดียวหรือกรีดทั้งสองข้างขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละเคส จากนั้นจึงสอดแท่งซิลิโคนที่เหลาปรับขนาดเอาไว้อย่างเหมาะสมเข้าไปวางที่ช่วงสันจมูกและทำการปรับทรงให้สวยงาม การเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบปิดเหมาะกับเคสที่ฐานจมูกเดิมดีอยู่แล้วและต้องการแก้ปัญหาแค่เพียงเล็กน้อย เช่น ต้องการปรับเพิ่มความสูงของจมูกหรือปรับปลายจมูกให้พุ่งสวยมากขึ้น
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด
- รอยแผลเล็กกว่าและมองเห็นได้ยาก เพราะเป็นการกรีดเปิดแผลขนาดเล็กภายในจมูก
- ไม่ต้องดมยาสลบ ใช้เวลาในการผ่าตัดเพียง 60-90 นาที
- แผลบวมน้อย พักฟื้นไม่นาน ฟื้นตัวได้ไว
- ค่าใช้จ่ายในการรักษาไม่แพงเท่ากับการเสริมจมูกเทคนิคโอเพ่น
ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบปิด
- การเสริมจมูกแบบปิดแพทย์จะมองไม่เห็นโครงสร้างภายในจมูก จึงไม่สามารถใช้แก้ปัญหาเคสที่ซับซ้อนมาก ๆ ได้เช่น จมูกสั้น จมูกเบี้ยวหรือเอียง จมูกงุ้ม ฯลฯ
- ไม่สามารถเสริมจมูกให้ดูโด่ง หรือทำให้ปลายดูเชิดสูงมาก ๆ ได้เหมือนกับการเสริมจมูกเทคนิคโอเพ่น
- มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาจมูกทะลุ จมูกเอียงหรือเบี้ยวได้ในอนาคต หากแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดรักษาขาดประสบการณ์และไม่เชี่ยวชาญมากพอ
การเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty)
เป็นเทคนิคการเสริมจมูกที่ใช้วิธีการผ่าตัดใหญ่ โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อเปิดแผลตั้งแต่ปีกจมูกซ้ายไปถึงบริเวณปีกจมูกขวาเพื่อเปิดโพรงจมูก ทำให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างและปัญหาที่ต้องแก้ไขภายในจมูกได้อย่างชัดเจน จึงเป็นวิธีที่เหมาะกับการเสริมจมูกทุกรูปแบบ ทั้งจมูกที่มีปัญหาไม่มาก ฐานจมูกเดิมดีอยู่แล้วแต่อยากปรับช่วงสันให้โด่งสูงและเสริมปลายให้พุ่งมาก ๆ ตลอดไปจนถึงเคสที่จมูกมีปัญหาค่อนข้างซับซ้อน เช่น แกนกระดูกคด ฐานจมูกเอียงและเบี้ยว กระดูกฮัมพ์มีขนาดใหญ่มาก ปลายจมูกงุ้มต่ำ จมูกสั้น จมูกเล็ก เนื้อจมูกน้อยและในเคสแก้จมูก โดยเป็นวิธีการเสริมจมูกที่ช่วยป้องกันปัญหาจมูกเอียง จมูกเบี้ยว ซิลิโคนลอยและซิลิโคนทะลุได้ดีมาก
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น>
- เหมาะกับการเสริมจมูกทุกรูปแบบและสามารถแก้ไขปัญหาจมูกที่มีความซับซ้อนได้ เช่น จมูกสั้น จมูกเอียงหรือเบี้ยว จมูกมีฮัมพ์ รวมจนถึงในเคสของการแก้ทรงจมูกหลังการเสริมจมูก
- สามารถเสริมจมูกให้ดูสูงโด่งและมีปลายเชิดมาก ๆ ได้ โดยเสี่ยงทะลุน้อยกว่า แก้ปัญหาปลายจมูกตึงรั้ง เป็นเทคนิคในการเสริมจมูกปลอดภัยกว่าแบบปิด (Close Rhinoplasty)
- ช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาจมูกเอียง จมูกเบี้ยว ซิลิโคนลอย และปัญหาจมูกทะลุในอนาคต
ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น
- สังเกตเห็นรอยแผลได้ง่ายกว่าเพราะเป็นการกรีดเปิดแผลที่ผิวด้านนอกจมูก ผู้ที่เป็นแผลง่ายหรือแผลคีลอยด์ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด
- มีการใช้ยาสลบร่วมกับการรักษา (ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาสลบ ควรแจ้งประวัติให้แพทย์ทราบ) ทำให้ใช้เวลาในการผ่าตัดนานกว่า
- อาจมีอาการบวมหรือรอยเชียวช้ำเกิดขึ้นได้ โดยใช้เวลาในการพักฟื้นประมาณ 7-14 วัน
- ค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นเทคนิคการเสริมจมูกที่ค่อนข้างละเอียดและซับซ้อน แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องเป็นแพทย์ที่มีเทคนิคการรักษาที่เหมาะสม
เสริมจมูกแบบปิด VS เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น เลือกแบบไหนดี
หากจะตอบว่าวิธีไหนดีกว่ากันคงจะตอบได้ยาก เพราะการตัดสินใจเลือกวิธีเสริมจมูกขึ้นอยู่กับโครงสร้างจมูกเดิมและฐานจมูกเดิมของคนไข้ หากจมูกเดิมมีปัญหาไม่เยอะ ไม่ซับซ้อน และคนไข้ไม่อยากใช้วิธีการผ่าตัดใหญ่ก็จะเหมาะกับการใช้วิธีเสริมจมูกแบบปิด หรือหากเป็นเคสที่จมูกมีปัญหาค่อนข้างซับซ้อน เคสงานแก้จมูก จมูกเบี้ยว ซิลิโคนเอียง แกนกระดูกคด ฯลฯ ในเคสแบบนี้จะเหมาะกับการเสริมจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่นมากกว่า เพราะเป็นการผ่าเปิดโพรงจมูกเพื่อให้แพทย์ปรับโครงสร้างภายในจมูกใหม่ทั้งหมดแล้วจึงเสริมซิลิโคนเข้าไปใหม่ ทำให้ได้ทรงจมูกที่สวยเป็นธรรมชาติและเกิดปัญหาหลังเสริมจมูกได้น้อยที่สุด โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องประเมินสภาพปัญหาและโครงสร้างจมูกเดิมร่วมกับความต้องการของคนไข้เพื่อเลือกใช้วิธีการเสริมจมูกที่เหมาะสมมากที่สุด
เสริมจมูกปลอดภัยที่ไหนดี? เลือกคลินิกอย่างไรให้จมูกโด่งสวย ดูเป็นธรรมชาติ
ถัดมาที่ประเด็นสำคัญคือ ควรเลือก เสริมจมูกปลอดภัยที่ไหนดี? เพื่อให้ได้งานจมูกที่เนียนสวยเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นจมูกทรงสายฝอเน้นทรงสันโด่งสูงหรือจะเป็นจมูกทรงเกาหลีที่เน้นสโลปเรียวสวยเพิ่มความหวานละมุนให้ใบหน้า การเลือกคลินิกเสริมจมูกที่ดีและปลอดภัย ควรพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัยร่วมกัน ดังนี้
- ควรเลือกเสริมจมูกกับคลินิกที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐานและมีใบอนุญาตประกอบการที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ออกให้ เครื่องมือที่ใช้ในคลินิกสะอาดและมีมาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งซิลิโคนที่ใช้สำหรับการเสริมจมูกจะต้องเป็นซิลิโคนเกรดทางการแพทย์หรือซิลิโคนเกรดสำหรับปลูกฝังในร่างกาย ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. ประเทศไทย
- แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะต้องเป็นแพทย์ที่ผ่านการเสริมจมูกและแก้จมูกเป็นอย่างดี ให้คำแนะนำและวิเคราะห์ปัญหาจมูกของคนไข้ได้อย่างแม่นยำ ตรงไปตรงมา โดยก่อนการเข้ารับการรักษาสามารถนำชื่อ-นามสกุลของแพทย์มาตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพ ได้ที่ https://checkmd.tmc.or.th/ ร่วมกับการหาข้อมูลรีวิวผลงานการเสริมจมูก/แก้จมูกของแพทย์จากหลาย ๆ แหล่ง เช่น รีวิวของทางคลินิกเอง รีวิวในอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ pantip หรือการสอบถามจากผู้ที่เคยเสริมจมูกกับแพทย์ท่านเดียวกัน
- ระดับราคามีความสมเหตุสมผล ไม่ควรเลือกเสริมจมูกหรือแก้ทรงจมูกที่มีราคาถูกหรือราคาต่ำกว่าท้องตลาดมาก ๆ เพราะการเสริมจมูกต้องอาศัยเทคนิคและความเชี่ยวชาญของแพทย์เฉพาะทาง ยิ่งใช้ซิลิโคนที่มีคุณภาพดีและใช้เทคนิคการเสริมจมูกที่ซับซ้อนก็อาจทำให้ค่าใช้จ่ายในการเสริมจมูกค่อนข้างสูง นอกไปจากนี้ควรเลือกคลินิกที่ให้การรักษาอย่างตรงไปตรงมา ชี้แจงค่าใช้จ่ายสำหรับการแก้จมูกได้อย่างชัดเจน ไม่มีการบังคับขายคอร์สราคาแพง ๆ เพิ่ม